ถ้าพูดถึงขนมไทยเพื่อนๆคิดถึงขนมไทยชื่ออะไรบ้างคะ สุขใจนึกถึงพวกตระกูลทองต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง หรือขนมที่ใส่น้ำกะทิก็จะนึกถึงสลิ่มและลอดช่อง แต่เพื่อนๆรู้ไหมคะว่าขนมไทยเรานี้มีความหมายในตัวเองมัน โดยเฉพาะขนมไทยที่ชื่อเป็นมงคล 9 ชนิดที่สุขใจกำลังจะเล่าให้ฟังนี้ เป็นขนมไทยที่นิยมใช้ในงานมงคลหรือมอบให้เป็นของขวัญเพื่อแสดงถึงความเป็นสิริมงคล ความดีงามและความเจริญรุ่งเรืองค่ะ
ขนมอย่างแรกที่จะกล่าวถึงคือ ทองหยิบ
ขนมชนิดนี้จะต้องใช้ความปราณีตอย่างมากในการทำ ลักษณะของขนมจะเป็นรูปดอกไม้ แม่ครัวจึงต้องจับกลีบของทองหยิบให้งดงามเหมือนกลีบดอกไม้
ขนมชนิดนี้จะแสดงถึงการมอบความมั่งคั่งร่ำรวย กระทำการงานอันใดก็จะมีเงินมีทอง สมดังชื่อขนมคือ
ทองหยิบ-หยิบทอง นั่นเอง
ขนมอย่างที่
2 ก็คือ ทองหยอด ขนมชนิดนี้เป็นของโปรดของสุขใจเลยค่ะ
กินได้ไม่รู้เบื่อเป็นถาดๆ ลักษณะของทองหยอดจะลูกกลมสวยสีทองเหลืองอร่าม
การให้ทองหยอดก็เปรียบเสมือนการอวยพรให้ร่ำรวย มีเงินทองใช้ไม่หมดสิ้น เปรียบดั่งการให้ทองคำแก่กันค่ะ
ขนมอย่างต่อไปคือ ฝอยทอง
ฝอยทองเนี่ยจะเป็นเส้นติดกันเป็นแพ
แม่ครัวจะทำเป็นเส้นแพยาวๆพับทบไปทบมา นิยมให้กันในงานมงคลสมรส
ที่สำคัญคือเขาถือเคล็ดกันว่าห้ามตัดขนมให้สั้น ต้องปล่อยให้ยาวๆแบบนี้แหละค่ะ เนื่องจากมีความเชื่อว่าคู่บ่าวสาวจะได้ครองชีวิตคู่และรักกันอย่างยืนยาวเหมือนเส้นแพยาวๆของฝอยทอง
ขนมอย่างสุดท้ายของตระกูลทองคือ ทองเอก
เป็นขนมที่หากินได้ยากมากๆๆๆๆในปัจจุบัน เนื่องจากขั้นตอนการทำค่อนข้างยากและพิถีพิถัน สวยงามและโดดเด่นกว่าขนมตระกูลทองชนิดอื่นๆตรงที่มีการติดทองคำเปลวไว้ด้านบน
ลักษณะของขนมทองเอกจะเป็นรูปดอกไม้แกะสลักแบบแตกต่างกันไป
ลวดลายจะค่อนข้างละเอียดและปราณีตมาก ขนมชนิดนี้จะหมายถึงความเป็นที่หนึ่งหรือเป็นที่สุด
เนื่องจากคำว่าเอก แปลว่า หนึ่ง
นิยมให้กันในการแสดงความยินดีเรื่องการเลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง เป็นการแสดงความยินดีและอวยพรให้เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
เป็นที่หนึ่งหรือที่สุดในการทำงาน
ขนมอย่างที่
5
ขนมชั้น ที่ชื่อขนมชั้นเนี่ยเพราะลักษณะขนมจะเป็นชั้นๆทั้งหมด
9 ชั้นค่ะ
แต่สมัยนี้มีขนมชั้นที่นำมาขดเป็นรูปดอกกุหลาบ ก็สวยไปอีกแบบและไม่ทิ้งรสชาติความอร่อยของขนมชั้นแบบเดิมๆเลยค่ะ
ส่วนความหมายของขนมชั้นก็คือ การเลื่อนขั้น
เลื่อนชั้น เลื่อนยศให้สูงส่งยิ่งๆขึ้นไป
และเจริญก้าวหน้าเพราะคล้องกับเลข 9 ซึ่งเป็นจำนวนชั้นของขนมค่ะ
ขนมอย่างที่
6 คือ เม็ดขนุน ไม่ใช่เอาเมล็ดของขนุนมาทำนะคะ
แต่ลักษณะของขนมชนิดนี้ไปละม้ายคล้ายกับเมล็ดของขนุน จึงตั้งชื่อตามลักษณะรูปร่างของขนม แม่ครัวจะบดถั่วเขียวทำเป็นไส้และด้านนอกที่เป็นสีเหลืองคือเคลือบด้วยไข่แดง
ความหมายของขนมเม็ดขนุนคือ การที่จะมีคนสนับหนุน
ค้ำจุนให้เจริญก้าวหน้าในชีวิตและหน้าที่การงาน
ขนมอย่างที่
7 คือ จ่ามงกุฏ ซึ่งเป็นขนมอีกหนึ่งชนิดที่หาทานได้ยากและทำยากมากเช่นกัน
ชื่อขนมจ่ามงกุฏ หมายถึงการเป็นหัวหน้าสูงสุด
นิยมให้เพื่อแสดงความยินดีและอวยพรในงานเลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง ให้มีความเจริญก้าวหน้าในการงานเยิ่งๆขึ้นไป
ลักษณะของขนมชนิดนี้ก็คล้ายกับมงกุฏที่ประดับด้วยเมล็ดแตงโมงและทองคำเปลว
ขนมอย่างที่ 8 คือ เสน่ห์จันทน์ ซึ่งมีลักษณะเหมือนลูกจันทน์ แสดงให้เห็นถึงความมีเสน่ห์ เป็นที่รักของผู้อื่น ไม่มีคนเกลียดชัง ขนมชนิดนี้จะนิยมใช้ประกอบในงานมงคลสมรส สุขใจว่าตอนนี้ก็หาชิมเสน่ห์จันทน์ยากเหมือนกันค่ะ
และแล้วก็มาถึงขนมชนิดสุดท้ายคือ ถ้วยฟู
เคล็ดลับก็คือจะนำน้ำดอกไม้สดมาเป็นส่วนผสมเพื่อให้เกิดกลิ่นหอม
ความหมายของถ้วยฟูก็เหมือนชื่อขนมเลย คือ
ความเจริญรุ่งเรืองเฟื่องฟู ใช้สำหรับพิธีมงคลได้ทุกพิธีเลยค่ะ
ครบหมดทั้ง 9 ชนิดของขนมไทยที่นิยมให้ในงานมงคลต่างๆแล้วนะคะ
จริงๆแล้วเราสามารถแยกให้เป็นชนิดๆได้ แต่คนไทยก็นิยมจัดเป็นพานหรือกระเช้าขนมไทยมงคล
9 ชนิดเลยค่ะ ผู้ที่ได้รับก็จะได้พรไปเต็มๆ
9 ประการกันไปเลย มีความสุขแถมยังรอร่อยอีก
ภูมิปัญญาคนไทยนี้เจ๋งจริงๆ
วิธีทำทองหยิบ
เขียนโดย Narumon_Jenny
น่ากินทั้งนั้นเลยค่า
ตอบลบน่ากินทั้งนั้นเลยค่า
ตอบลบน่าทานทั้งนั้นเลย
ตอบลบเห็นแล้วอยากทานเลยค้าา
ตอบลบ